การ์ดเล่าว่า Mom/Dad ชวนเพื่อน AFS ที่ Trento มาเที่ยวบ้านที่ Verona เพราะ Host ทั้งสองบ้านรู้จักกันมาก่อนหรือพึ่งรู้จักตอนที่ไป Camp ที่ Trento ก็ไม่แน่ใจ แต่เพื่อนชื่อ "น้องยี" สาวจากหาดใหญ่จะมาเยี่ยม Host การ์ดการ์ดและการ์ดที่ Verona การ์ดเล่ามาพ่อกับแม่ที่เมืองไทยก็ไม่รู้จักหรอกว่าน้องยีคือคนไหน แต่เห็นว่ามี 3 สาวกับการ์ดที่มี Chapter เดียวกัน พึ่งจะได้รูปที่การ์ดส่งกลับมาให้..มาดูกัน
การ์ดพาน้องยีไปเที่ยวทะเลสาบ, โดยมี Mom/Dad พาไป
ภาพช่วงที่ไป Camp ที่ Trento ด้วยกัน
วันก่อนได้รับเมล์จาก AFS Thailand เรื่องการขออนุญาตพาเด็กๆเที่ยวงานเทศกาลปาส้มที่อิตาลี ก็เซ็นต์ผ่านให้ไปได้ เป็นข้อกำหนดของ AFS ที่ว่า ถ้าเด็กๆจะไป Outing หรือทริปท่องเที่ยวโดยไม่มี Host หรือ Chapter พาไป, จำเป็นต้องแจ้งขออนุญาตก่อนเสมอ ห้ามไปโดยพลการ เป็นกฏเหล็กของ AFS ซึ่งการ์ดเคยบอกเรื่องจะไปเที่ยวทริปนี้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่บอกให้การ์ดระวังตัวหน่อยเพราะส้มมันแข็งกว่ามะเขือเทศที่พ่อเคยดูใน TV
การ์ดบอกว่า มันเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเหมือนพวกขุนนางที่ไม่ดีขับรถม้าผ่านเมืองเข้ามา ชาวบ้านที่โกรธแค้นที่เป็นชาวสวนส้ม ขนส้มผ่านมาก็รุมเอาส้มขว้างปาขบวนรถม้าของขุนนาง เลยกลายเป็ธรรมเนียมที่ปากันเรื่อยมา..
การเข้าร่วมกิจกรรมต้องไปซื้อบัตรเข้าร่วมด้วย โดยเค้าจะมีเสื้อหรือชุดให้ใส่เวลาจะลงไปปาส้มใส่รถม้าในขบวนต่างๆ เห็นการ์ดบอกว่ามีประมาณ 13 ขบวนให้ปาส้ม หม่อมแม่สั่งว่าให้ระวังตัวอย่าให้ใครปาหัวโนกลับบ้านมา ทริปนี้ก็มีทั้งค่าเดินทาง, ค่าบัตร แต่ที่พักและอาหารเห็นการ์ดบอกว่าทาง AFS จะจัดหา Host ในเมืองที่จัดงานให้เด็กๆได้พัก ระบบบริหารจัดการของ AFS ที่นู่นก็เอื้ออำนวยช่วยเด็กดีเหมือนกันน่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหม่อมแม่กับลูกชายก็แอบกระซิบอะไรกันไม่รู้ รู้แต่ว่าคนขับรถได้รับคำสั่งให้ไปโอนเงินเพิ่มส่งไปให้ลูกชายโดยด่วน พรุ่งนี้ทำเลยห้ามเกินเที่ยง..
อาทิตย์นี้ญาติ Mom จะเข้าพธีแต่งงาน..ในฐานะที่การ์ดเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ก็มีหน้าที่ต้องไปร่วมงานกันทั้งหมด ทั้ง Mom/Dad พี่ชายอีกสอง และการ์ดอีกหนึ่ง, ธรรมเนียมการแต่งตัวเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของทางยุโรปต้องแต่งตัวเรียบบร้อยมาก ใส่สูทผูกไท ซึ่งลูกชายไม่ได้เตรียมไปเลย ครั้นจะไปซื้อก็ราคาแพงและไม่ได้จะใช้เท่าไหร่ Mom เลยไปยืมชุดสูทของลูกชายเพื่อนที่อายุและตัวพอๆกับการ์ดมาให้ใส่แทน พร้อมรองเท้าเบ็ดเสร็จ หม่อมแม่สั่งว่าให้ถ่ายรูปส่งกลับมาให้ดูด้วย
อีกกิจกรรมหนึ่งที่การ์ดต้องเข้าร่วมคือ การไปดูฟุตบอลระหว่างทีมเย่าคือ Verona เจอกับทีมเยือน Juventus ทีมชั้นนำของอิตาลี โดยคนทั้งเมืองจะไปดูฟุตบอลกัน เหมือนที่เราเห็นใน TV ที่เค้าไปเชียร์ทีมบ้านเค้าแข่ง ไปกันทั้งเมือง
กิจกรรมสุดท้ายที่การ์ดเล่าให้หม่อมแม่ฟังคือ ทุกวันจันทร์การ์ดจะต้อง Present เรื่องเมืองไทยเผยแพร่ให้เพื่อนในห้องฟัง ก่อนหน้านี้ติดเรื่องภาษาสำหรับสื่อสาร, Present เป็นภาษาอังกฤษเพื่อนก็ฟังออกบ้างฟังไม่ออกบ้าง อยากจะบอกว่าภาษาอังกฤษของคนไทยที่ดูกระท่อนกระแท่นดูจะดีกว่าทางฝั่งยุโรปน่ะ ตามที่การ์ดสัมผัสมา.. แต่ช่วงหลังๆ หลังจากอยู่อิตาลีมา 4-5 เดือนแล้ว ประกอบกับทั้ง Mom และ Chapter จัดคอร์สจัดหนักภาษาอิตาเลียนให้การ์ดมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง การ Present ครั้งหลังๆลูกชายใช้ภาษาอิตาเลียนนำเสนอเลย เท่านั้นแหละความครื้นเครงในห้องเรียนเริ่มเกิดขึ้น เด็กอิตาเลียนที่ไม่รู้จักเมืองไทยเริ่มมีคำถาม ถามเด็กเจ้าของประเทศตลอด..
การ์ดเล่าเครื่องครอบครัวให้เพื่อนฟัง..บอกว่ามีน้องชายหนึ่งคนอายุห่างกัน 5 ปี เพื่อนแทรกถามว่าน้องการ์ดชื่ออะไร การ์ดก็บอกชื่อน้องไป เป็นที่ฮือฮามาก เด็กอิตาเลียนไม่เคยเจอ.. การ์ดบอกว่าน้องชื่อ ณัฐพล การ์ดชื่อ ณัฐนนท์ เพื่อนสงสัยว่าทำไมชื่อมันเกือบจะเหมือนกัน ผิดกันคือพยางค์หลังเท่านั้น ไม่สับสนกันเหรอ การ์ดก็ต้องร่ายยาวเลยว่ามันต่างกันก็ถือว่าคนล่ะคนกัน ใช้ได้ เมืองไทยก็มีชื่อคล้ายๆกันเยอะมาก มันเป็นเรื่องแปลกของคนที่นั่น.. เป็นนิสัยของเด็กโซนยุโรปน่ะที่เค้าชอบถามคำถาม คนไทยเราฟังเรื่องแล้วเฉยๆ จบๆไป แต่คนที่นั่น สงสัยเป็นถาม คนโน้นถามเสร็จ คนนี้ถามต่อ แค่เรื่องครอบครัวกับเมืองไทยอย่างเดียวการ์ดบอกว่าโดนเป็น 10-20 คำถามได้..ดีน่ะที่ภาษาอิตาเลียนแข็งแรงขึ้น เลยสวนกลับได้ทุกหมัด อีกเรื่องตอนที่การ์ดนำเสนอใน Presentation คือมันมีรูปตุ๊กตุ๊กแพรมออกมา พอเพื่อนเห็นเท่านั้นเป็นประเด็นเลย คืออะไร คนขับนั่งตรงไหน, บรรทุกได้กี่คน, ทำไมมีแค่ 3 ล้อ เด็กไทยมอปลาย เลยต้องนำเสนอข้อมูลตุ๊กตุ๊กไทยให้เพื่อนได้รับทราบ..จนเป็นที่พอใจกันต่อไป
End..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น