ยินดีต้อนรับสู่บล็อก CARD Story.. AFS รุ่นที่51 @Verona ITALY ลูกชายคนโตของครอบครัว, จาก รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เพื่อนสาวจาก Trento มาเยี่ยม..การ์ดที่ Verona

CARD Story..

การ์ดเล่าว่า Mom/Dad ชวนเพื่อน AFS ที่ Trento มาเที่ยวบ้านที่ Verona เพราะ Host ทั้งสองบ้านรู้จักกันมาก่อนหรือพึ่งรู้จักตอนที่ไป Camp ที่ Trento ก็ไม่แน่ใจ แต่เพื่อนชื่อ "น้องยี" สาวจากหาดใหญ่จะมาเยี่ยม Host การ์ดการ์ดและการ์ดที่ Verona การ์ดเล่ามาพ่อกับแม่ที่เมืองไทยก็ไม่รู้จักหรอกว่าน้องยีคือคนไหน แต่เห็นว่ามี 3 สาวกับการ์ดที่มี Chapter เดียวกัน พึ่งจะได้รูปที่การ์ดส่งกลับมาให้..มาดูกัน












การ์ดพาน้องยีไปเที่ยวทะเลสาบ, โดยมี Mom/Dad พาไป

ภาพช่วงที่ไป Camp ที่ Trento ด้วยกัน

















การ์ดยังเล่าต่ออีกว่า Mom บอกว่าให้การ์ดติดต่อทางบ้านได้แค่อาทิตย์ละครั้ง เพราะไม่อยากให้อยู่คนเดียวบนห้อง ธรรมเนียมคนที่นั่นชอบให้ทุกคนมาสังคมกัน มานั่งในห้องพร้อมหน้าหร้อมตากัน มาทำกิจกรรมร่วมกัน การ์ดมันชอบชิ่งมาเปิด Net บ้าง Chat คุยกับเพื่อนบ้าง Mom เลยตั้งกฏใหม่ขึ้นมา แต่พ่อกับแม่ก็บอกการ์ดไปว่า ให้ปฏิบัติตาม ห้ามดื้อหรือไม่พอใจ การอยู่กับคนในสังคมต่างแดน จำเป็นต้องปรับตัว การ์ดต้องปรับตัวให้ได้ ดูลูกก็ไม่ได้จะดื้ออะไร 

วันก่อนได้รับเมล์จาก AFS Thailand เรื่องการขออนุญาตพาเด็กๆเที่ยวงานเทศกาลปาส้มที่อิตาลี ก็เซ็นต์ผ่านให้ไปได้ เป็นข้อกำหนดของ AFS ที่ว่า ถ้าเด็กๆจะไป Outing หรือทริปท่องเที่ยวโดยไม่มี Host หรือ Chapter พาไป, จำเป็นต้องแจ้งขออนุญาตก่อนเสมอ ห้ามไปโดยพลการ เป็นกฏเหล็กของ AFS ซึ่งการ์ดเคยบอกเรื่องจะไปเที่ยวทริปนี้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่บอกให้การ์ดระวังตัวหน่อยเพราะส้มมันแข็งกว่ามะเขือเทศที่พ่อเคยดูใน TV 

การ์ดบอกว่า มันเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตเหมือนพวกขุนนางที่ไม่ดีขับรถม้าผ่านเมืองเข้ามา ชาวบ้านที่โกรธแค้นที่เป็นชาวสวนส้ม ขนส้มผ่านมาก็รุมเอาส้มขว้างปาขบวนรถม้าของขุนนาง เลยกลายเป็ธรรมเนียมที่ปากันเรื่อยมา..

การเข้าร่วมกิจกรรมต้องไปซื้อบัตรเข้าร่วมด้วย โดยเค้าจะมีเสื้อหรือชุดให้ใส่เวลาจะลงไปปาส้มใส่รถม้าในขบวนต่างๆ เห็นการ์ดบอกว่ามีประมาณ 13 ขบวนให้ปาส้ม หม่อมแม่สั่งว่าให้ระวังตัวอย่าให้ใครปาหัวโนกลับบ้านมา ทริปนี้ก็มีทั้งค่าเดินทาง, ค่าบัตร แต่ที่พักและอาหารเห็นการ์ดบอกว่าทาง AFS จะจัดหา Host ในเมืองที่จัดงานให้เด็กๆได้พัก ระบบบริหารจัดการของ AFS ที่นู่นก็เอื้ออำนวยช่วยเด็กดีเหมือนกันน่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหม่อมแม่กับลูกชายก็แอบกระซิบอะไรกันไม่รู้ รู้แต่ว่าคนขับรถได้รับคำสั่งให้ไปโอนเงินเพิ่มส่งไปให้ลูกชายโดยด่วน พรุ่งนี้ทำเลยห้ามเกินเที่ยง..












อาทิตย์นี้ญาติ Mom จะเข้าพธีแต่งงาน..ในฐานะที่การ์ดเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ก็มีหน้าที่ต้องไปร่วมงานกันทั้งหมด ทั้ง Mom/Dad พี่ชายอีกสอง และการ์ดอีกหนึ่ง, ธรรมเนียมการแต่งตัวเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของทางยุโรปต้องแต่งตัวเรียบบร้อยมาก ใส่สูทผูกไท ซึ่งลูกชายไม่ได้เตรียมไปเลย ครั้นจะไปซื้อก็ราคาแพงและไม่ได้จะใช้เท่าไหร่ Mom เลยไปยืมชุดสูทของลูกชายเพื่อนที่อายุและตัวพอๆกับการ์ดมาให้ใส่แทน พร้อมรองเท้าเบ็ดเสร็จ หม่อมแม่สั่งว่าให้ถ่ายรูปส่งกลับมาให้ดูด้วย




อีกกิจกรรมหนึ่งที่การ์ดต้องเข้าร่วมคือ การไปดูฟุตบอลระหว่างทีมเย่าคือ Verona เจอกับทีมเยือน Juventus ทีมชั้นนำของอิตาลี โดยคนทั้งเมืองจะไปดูฟุตบอลกัน เหมือนที่เราเห็นใน TV ที่เค้าไปเชียร์ทีมบ้านเค้าแข่ง ไปกันทั้งเมือง 







กิจกรรมสุดท้ายที่การ์ดเล่าให้หม่อมแม่ฟังคือ ทุกวันจันทร์การ์ดจะต้อง Present เรื่องเมืองไทยเผยแพร่ให้เพื่อนในห้องฟัง ก่อนหน้านี้ติดเรื่องภาษาสำหรับสื่อสาร, Present เป็นภาษาอังกฤษเพื่อนก็ฟังออกบ้างฟังไม่ออกบ้าง อยากจะบอกว่าภาษาอังกฤษของคนไทยที่ดูกระท่อนกระแท่นดูจะดีกว่าทางฝั่งยุโรปน่ะ ตามที่การ์ดสัมผัสมา.. แต่ช่วงหลังๆ หลังจากอยู่อิตาลีมา 4-5 เดือนแล้ว ประกอบกับทั้ง Mom และ Chapter จัดคอร์สจัดหนักภาษาอิตาเลียนให้การ์ดมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง การ Present ครั้งหลังๆลูกชายใช้ภาษาอิตาเลียนนำเสนอเลย เท่านั้นแหละความครื้นเครงในห้องเรียนเริ่มเกิดขึ้น เด็กอิตาเลียนที่ไม่รู้จักเมืองไทยเริ่มมีคำถาม ถามเด็กเจ้าของประเทศตลอด..

การ์ดเล่าเครื่องครอบครัวให้เพื่อนฟัง..บอกว่ามีน้องชายหนึ่งคนอายุห่างกัน 5 ปี เพื่อนแทรกถามว่าน้องการ์ดชื่ออะไร การ์ดก็บอกชื่อน้องไป เป็นที่ฮือฮามาก เด็กอิตาเลียนไม่เคยเจอ.. การ์ดบอกว่าน้องชื่อ ณัฐพล การ์ดชื่อ ณัฐนนท์ เพื่อนสงสัยว่าทำไมชื่อมันเกือบจะเหมือนกัน ผิดกันคือพยางค์หลังเท่านั้น ไม่สับสนกันเหรอ การ์ดก็ต้องร่ายยาวเลยว่ามันต่างกันก็ถือว่าคนล่ะคนกัน ใช้ได้ เมืองไทยก็มีชื่อคล้ายๆกันเยอะมาก มันเป็นเรื่องแปลกของคนที่นั่น.. เป็นนิสัยของเด็กโซนยุโรปน่ะที่เค้าชอบถามคำถาม คนไทยเราฟังเรื่องแล้วเฉยๆ จบๆไป แต่คนที่นั่น สงสัยเป็นถาม คนโน้นถามเสร็จ คนนี้ถามต่อ แค่เรื่องครอบครัวกับเมืองไทยอย่างเดียวการ์ดบอกว่าโดนเป็น 10-20 คำถามได้..ดีน่ะที่ภาษาอิตาเลียนแข็งแรงขึ้น เลยสวนกลับได้ทุกหมัด อีกเรื่องตอนที่การ์ดนำเสนอใน Presentation คือมันมีรูปตุ๊กตุ๊กแพรมออกมา พอเพื่อนเห็นเท่านั้นเป็นประเด็นเลย คืออะไร คนขับนั่งตรงไหน, บรรทุกได้กี่คน, ทำไมมีแค่ 3 ล้อ เด็กไทยมอปลาย เลยต้องนำเสนอข้อมูลตุ๊กตุ๊กไทยให้เพื่อนได้รับทราบ..จนเป็นที่พอใจกันต่อไป

End..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น