ยินดีต้อนรับสู่บล็อก CARD Story.. AFS รุ่นที่51 @Verona ITALY ลูกชายคนโตของครอบครัว, จาก รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กรุงเทพฯ

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตอน..เมื่อความหนาวมาเยือน

CARD Story..

อาสาสมัคร AFS

การ์ดเล่าว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน ต้องไปช่วยพี่ชายสัมภาษณ์เด็กอิตาเลี่ยนที่สอบผ่านข้อเขียน เพื่อคัดคนที่มีความสามารถในการไปใช้ชีวิตต่างแดนได้ พี่ชายการ์ดเป็นคนสัมภาษณ์, ส่วนการ์ดสัมภาษณ์ยังไม่ได้ ก็เลยอาสาคอยเปิดประตูให้คนเข้าไปสัมภาษณ์ห้องพี่ชายทีล่ะคนแทน เป็นไง..อาสาสมัคร AFS สัญชาติไทย

Camera Connectivity Kit

การ์ดมีกล้อง Digital ที่ถ่ายภาพและ Video ได้, แต่เมื่อเวลาที่จะต้องส่งภาพหรือไฟล์กลับมาบ้าน จำเป็นต้องไปขอ Notebook Mom ใช้เนื่องจาก Card Reader ที่เอาไป มันเสียบตรงเข้า iPad ไม่ได้, ต้องเสียบผ่าน Notebook เท่านั้น เลยเป็นปัญหาของลูก ว่าส่งรูปส่งไฟล์ไม่ได้ซักที เมื่อเห็นอุปกรณ์ชุดนี้ออกมาก็เลยว่าจะซื้อแล้วส่งไปให้การ์ด เลยไปเล่าให้การ์ดฟัง, วันรุ่งขึ้นมารายงานเลยว่าที่นู่น 29 EURO จะให้ซื้อเลยหรือเปล่า ราคาแพงกว่าเมืองไทยไม่มาก, ก็เลยให้การ์ดจัดไปเลย วันก่อนบอกว่าซื้อมาเรียบร้อยแล้ว แต่มัยพ่อกับแม่ยังไม่ได้รับรูปหรือไฟล์เพิ่มเลย..ไอ้ลูกคนนี้มันยังไง?

คาร์โล


การ์ดมีโอกาสไปช่วยงานเพื่อนของ Mom จำไม่ได้ว่าการ์ดเล่าว่าไปช่วยทำอะไร, แต่หลังจากทำเสร็จ เพื่อนของเพื่อน Mom อีกทีชวนการ์ดเล่นกีฬาอย่างนึง..การ์ด post ใน FB บอกว่า "ในขณะที่เพื่อนบางคนไปดูหนัง ไปฟังเพลง ไปช๊อปปิ้ง..แต่กูต้องมาเล่นเปตอง" เพื่อนของเพื่อนแม่ชวนการ์ดเล่นเปตอง..(การ์ดบอกว่าเพื่อนแม่อายุประมาณ 60 กว่าๆได้) 
หลังจากจบเกมส์..การ์ดก็เปลี่ยนชื่อเป็น "คาร์โล"

พายุหิมะ..มาแว้ว

อากาศที่อิตาลีตอนนี้อุณหภูมิติดลบ, พายุหิมะพัดเข้ามาที่เมืองที่การ์ดอาศัยอยู่ หม่อมแม่ถามลูกชายเรื่องพายุหิมะว่ามันเป็นยังไง เหมือนฝนตกมั้ย(ดูเปรียบเทียบ) แล้วตกตลอดเลยหรือเปล่า จนการ์ดต้องมาอธิบายว่ามันก็ตกบ้างหยุดบ้างแบบฝนตก ถ้าตกหนักๆแบบวันนี้กับเมื่อวานก็ออกบ้านไปไหนไม่ได้ การ์ดบอกหม่อมแม่ว่าไม่ได้ไปเรียนมา 2 วันแล้วเนื่องจากพายุหิมะ ถนนหนทางมีแต่หิมะเต็มถนนไปหมด จนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และอากาศก็หนาวเกินไปสำหรับการออกนอกบ้าน ลูกชายคนโตของตระกูลเลยต้องเป็นกบจำศีลอยู่ที่บ้าน

ทิ้งขยะ

หม่อมแม่ถามเรื่องบ้านเมืองที่ Verona ว่าบ้านเมืองเค้าเป็นยังไง, สะอาดหรือสกปรก เหมือนเมืองไทยมั้ย? ลูกชายก็ตอบกลับหม่อมแม่จนหม่อมแม่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก การ์ดบอกว่าหน้าบ้านที่การ์ดอยู่ไม่มีถังขยะ ข้างๆบ้านก็ไม่มี ทั้งหมู่บ้านก็ไม่มี และทั้งเมืองที่การ์ดอยู่ไม่มีถึงขยะ ไม่มีที่ทิ้งขยะ..หม่อมแม่อุทาน อกอีแป้นแตก..เป็นไปได้ยังไง ทั้งเมืองไม่มีที่ทิ้งขยะ แล้วขยะในบ้านไม่มีเหรอ ลูกชายสุดที่รักก็ตอบแม่ว่า มันจะไม่มีได้ยังไง ขยะมันก็มีทุกวันแหละ เวลามีขยะก็เอาใส่ถุงรวบๆแล้วก็ผูกปากไว้ พอได้ซัก 2-3 ถุง Dad ก็เอามาใส่ท้ายรถครับ..แล้วก็ แล้วก็ ขับรถเอาไปทิ้งอีกเมืองนึงที่อยู่ติดกัน ถึงบางอ้อเลยหม่อมแม่ เค้าบริหารจัดการขยะกันอย่างมีระบบไม่ได้ทิ้งสะเปะสะปะแบบบ้านเรา มีที่ทิ้งเป็นจุดๆ การบริหารจัดการขยะของแต่ละบ้านก็เป็นระบบระเบียบ มีการแยกขยะเพื่อให้สามารถสะดวกในการเอาไป Recycle ต่อไป..เป็นบ้านเราคงเห็นถังขยะกันเต็มหน้าบ้าน, ข้างบ้าน, หลังหมู่บ้าน อายเค้าจังเลย..แบบไทยๆ

หมวกไหมพรม

อากาศช่วงนี้หนาวมากๆสำหรับเด็กไทย ม.ปลายสายวิทย์ จากบดินทรเดชา การ์ดบอกว่าทุกครั้งที่ออกนอกบ้านไปเรียนต้องใส่ 3 ชั้น วัดความหนาได้ 20 ซม.(มิน่าดูลูกมันอ้วนจัง) ไม่งั้นเอาไม่อยู่ วันนึงหลังจากกลับบ้าน Mom ก็เอาของขวัญมาให้การ์ดชิ้นนึง การ์ดแกะออกดูปรากฎว่าเป็นหมวกใส่กันหนาว(แบบที่วัยรุ่นใส่ครอบหัว)พิมพ์คำว่า ITALY อยู่กลางหมวก ใส่แล้วอุ่นหัวดี ถูกใจลูกชายมาก.. ต้องขอบคุณ Mom มากที่ดูแลห่วงใยการ์ดเป็นอย่างดี..

เพื่อนสาว..จากมาเลเซีย

การ์ดบอกว่า เมื่อไม่กี่วันมานี่ Chapter เรียกให้เด็ก AFS ทุกคนในเมือง Verona ไปต้อนรับเด็กมาเลเซียที่มาใหม่ ซึ่งเป็นคอร์สระยะสั้นประมาณ 2 เดือน ซึ่งจะมาอยู่ที่ Verona เพิ่มอีกคนหนึ่ง การ์ดบอกว่าเป็นเพื่อนสาว การ์ดน่าจะช่วยเพื่อนสาวได้มากเพราะมาจากภูมิภาคเอเซียด้วยกัน แต่ยังไม่ได้สนิทกันมากนักเพราะพึ่งเจอ แต่เชื่อว่าลูกชายคงใช้ยิ้มสยามปูทางตีซี้ต่อไป..

เตรียมไปบ้านญาติทางตอนใต้

วันศุกร์นี้การ์ดบอกหม่อมแม่ว่า หลังจากเรียนเสร็จกลับมาบ้าน Mom กับ Dad และพี่ชายทั้งสองคนก็จะเดินทางไปบ้านพี่สาว Mom ที่ตอนใต้ของประเทศ ซึ่งครั้งนี้การ์ดต้องไปด้วยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่บ้าน Mom&Dad ต้องไปทุกคริสมาสต์ แต่ละคนก็เตรียมของขวัญสำหรับไปมอบให้ญาติอันเป็นที่รัก ซึ่งรวมทั้งการ์ดด้วยที่เตรียมไปจากเมืองไทย(โดยการคัดสรรจากหม่อมแม่, แต่ตังส์ท่านพ่อ) หม่อมแม่และการ์ดเจรจากันแล้วว่า อะไรต้องให้ใคร เมื่อไหร่ ซึ่งลูกชายเข้าใจดี..มีตั้งแต่กระเป๋าผ้า Naraya, รถสามล้อ อันเป็นสัญลักษณ์เมืองไทย และเข็มกลัดลายไทยอีกหลายอัน การ์ดน่าจะเป็นคนที่เตรียมของที่ระลึกไปแจกมากที่สุด เนื่องจากหม่อมแม่กลัวว่าจะไม่พอแจก เลยจัดหนักไปหน่อย..จนเกือบจะขึ้นเครื่องไม่ได้วันเดินทาง เกินไป 2-3 กก.ตามที่ AFS กำหนด แต่บังเอิญสายการบินเค้าให้ผ่าน การ์ดเลยโอเค..

การ์ดบอกว่า ถนนหนทางระหว่างเมืองบางช่วงเป็น 6 เลนบ้าง 4 เลนบ้าง แต่สภาพถนนเรียบมาก เวลาขับรถจะนิ่งและนิ่มแทบจะไม่รู้สึกเลย สามารถใช้ความเร็วได้ดี Dad ขับ 100 กว่าสบายๆ การจราจรก็ไม่ติดขัดและรถมากแบบบ้านเรา หม่อมแม่และพ่อถามการ์ดว่าในเส้นทางมีผ่านบ้านเพื่อนคนไทยหรือเปล่า.. การ์ดบอกว่ามีแต่ต้องเลยไปอีก 100 กว่ากม.ถึงจะมีบ้านเพื่อน คงเลยไปต่อเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนไม่สะดวก ถ้าเป็นทางผ่านการ์ดก็กะจะขอ Mom&Dad ให้แวะให้หน่อย


ภาษาอิตาเลี่ยน..ง่ายนิดเดียว

หม่อมแม่ถามเรื่องการเรียน..การ์ดบอกว่าไม่มีอะไรมาก หม่อมแม่เลยถามเรื่องภายในบ้าน ยังไปทำให้ Mom อารมณ์เสียอีกหรือเปล่า การ์ดบอกว่าเดี๋ยวนี้เค้ากับ Mom ดีกันแล้ว..ตั้งแต่การ์ดโต้ตอบกับ Dad&Mom เป็นภาษาอิตาเลี่ยน การ์ดบอกว่าเดี๋ยวนี้การ์ดไม่พูดภาษาอังกฤษกับ Mom แล้ว เพราะ Mom แปลสับสน ไม่รู้เรื่อง การ์ดเลยสื่อสารเป็นอิตาเลี่ยนแทน หม่อมแม่ประหลาดใจมากถามการ์ดว่าพูดได้แล้วเหรอ ลูกชายเกทับทันที นี่การ์ดน่ะแม่ การ์ดว่ามันไม่มีอะไรเลย แค่จับจุดได้แล้วก็จำศัพท์ให้ได้ การ์ดก็พูดให้ Mom & Dad เข้าใจได้แล้วกัน Mom ยังบอกเลยว่าการ์ดเก่ง ดันบอกอีกว่า ถ้าแม่เข้าใจแม่จะว่ามันง่ายกว่าพูดภาษาไทยอีก เป็นไงล่ะ เด็กไทย สัญชาติไทย.. หม่อมแม่ก็ค่อนข้างแน่ใจในความสามารถลูกชาย เพราะเคยได้ยิน Dad ตะโกนพูดอะไรกับการ์ดไม่รู้ แล้วการ์ดก็ตอบอิตาเลี่ยนกลับไป หม่อมแม่ถามการ์ดว่า Dad พูดว่าอะไร การ์ดบอกว่า Dad บอกให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมออกไปข้างนอกกัน..เป็นไงล่ะลูกชายเรา

ไส้กรอก&ไวน์

มีอยู่ครั้งนึงที่ Mom พาการ์ดไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง บ้านเค้าเป็นบ้านที่อยู่กลางสวนองุ่น บรรยากาศแบบท้องถิ่นอิตาลี บ้านเค้าบ่มไวน์ที่ห้องใต้ดิน ซึ่งการ์ดเดินลงไปดูบอกว่าถังบ่มไวน์เต็มไปหมด บางถังมีอายุกว่า 10 ปี, และบางถังบ่มตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ของเพื่อน Mom ชั้นบนก็มีไส้กรอกแขวนเต็มเป็นราวเลย การ์ดจับดูมันแข็งๆเหมือนไส้กรอกอีสานแต่เรียวกว่า(พูดซะเสียยี่ห้อเค้าเลย) บ้านเพื่อน Mom ขายเหล้าไวน์และไส้กรอก การ์ดบอกว่าเคยกินไส้กรอกอิตาเลี่ยน อร่อยดี แต่มีหลายแบบ บางแบบก็เปรี้ยวๆ บางแบบก็ชีสเยอะ ไส้กรอกทางยุโรปจะไม่เหมือนทางบ้านเรา การ์ดบอกว่าเค้าทำยังไงไม่รู้เพราะวันนั้นก็ไม่เห็นเค้าทำ รู้แต่ว่าทำเสร็จก็เอามาบ่มในห้อง แล้วมันก็จะแข็งขึ้นเรื่อยๆ เวลาจะกินก็ต้องปอกเอาเปลือนอกออกก่อน เพื่อน Mom บอกว่าบางอันที่เค้าเก็บไว้อายุกว่า 10 ปีแต่ไม่เสียน่ะ ยังกินได้อยู่ ทำตั้งแต่สมัยเค้ายังหนุ่มๆ นับเป็นวิธีการถนอมอาหารที่แปลกมาก เป็นความรู้ใหม่ที่เด็กไทยสายวิทย์ได้รับมา..

** ลืมบอกให้การ์ดขอมาให้พ่อชิมซักถังนึง(เพื่อนเยอะ, น้องก็เยอะกลัวไม่พอแจก **


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น