ยินดีต้อนรับสู่บล็อก CARD Story.. AFS รุ่นที่51 @Verona ITALY ลูกชายคนโตของครอบครัว, จาก รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กรุงเทพฯ

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตอน..เรื่องราวจากตอนใต้

CARD Story..

กำลังอ่าน FB แฟนเพจอยู่ก็เหลือบเห็น Mom Online ขึ้นมาพอดี เลยฝากสวัสดีปีใหม่ตามธรรมเนียมไทย+Merry X'Mas ตามแบบสากลไปอีกนิด อวยพรปีใหม่ไปตามธรรมเนียมไทย Mom ก็บอกว่าตอนนี้อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี ชื่อเมือง Puglia อ่านว่ายังไงก็ไม่รู้ แต่เป็นเมืองติดทะเล Adriatic จะกลับ Verona พรุ่งนี้เช้า, วันนี้มีงานวันเกิดญาติ ทั้งครอบครัวจะไปงาน, ไปเต้นรำกัน ซึ่งลูกชายก็จะไปด้วย

การ์ดเล่าว่าตอนขามา เส้นทางที่ขับมาเป็นทางตรงตลอด ซ้ายมือเป็นทะเล ขวามือเป็นภูเขา ถนนวิ่งตรง บางช่วงตัดผ่านภูเขาไปเลย ทำให้สามารถทำความเร็วได้ตลอดเส้นทาง บางช่วงทำได้ถึง 180 
การ์ดบอกว่าตั้งแต่มาอยู่อิตาลี, ยังไม่เคยเจอรถติดเลย ถนนก็สวยและเรียบกว่าเมืองไทย คนที่นี่รักษากฏระเบียบมากกว่าบ้านเรา รถก็ไม่เยอะ

บ้านทางตอนใต้ที่ครอบครัว Mom ต้องมาทุกเทศกาลคือบ้านของย่า ห่างตัวเมืองออกมาประมาณ 30 กม. ญาติๆอยู่รวมๆกันในบริเวณใกล้ๆ  หม่อมแม่ถามการ์ดว่าแล้วนอนกันยังไง การ์ดบอกว่าคนที่นี่เค้าต้องให้นอนเตียง การ์ดกับพี่นอนที่บ้านย่า ส่วน Mom/Dad ก็นอนบ้านญาติอีกคน แต่ก็ใกล้ๆกันไม่ห่างกันมาก ธรรมเนียมบ้านเราก็จะแบบนึง แต่ที่นี่เค้าออกจะเอาใจใส่และดูจะเป็นระเบียบขั้นตอนมากกว่าบ้านเราน่ะ ย่าและญาติๆดีใจที่รู้จักการ์ด Mom ก็ชมว่าการ์ดเป็นเด็กดี ดูจะเป็นที่รักใคร่ของบ้าน Mom ฟังแล้วก็สบายใจดี..น่ะ

ที่บ้านย่ามีเด็กๆอยู่หลายคน มีคนนึงอายุ 4 ขวบเป็นเด็กผู้หญิง การ์ดบอกน่ารัก ชอบมาคุยและเล่นกับการ์ด คุยกันรู้เรื่อง น่าจะเป็นเพราะเป็นคนในวัยเดียวกัน(ระดับความเข้าใจภาษาใกล้เคียงกัน) ตอนที่คุยกับหม่อมแม่ ก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงพูดอิตาเลี่ยนเข้ามา หม่อมแม่ก็เลยถามการ์ด การ์ดเลยบอกว่าน้องเดินเข้ามาหาการ์ด หม่อมแม่เลยถามว่าน้องพูดว่าอะไร? เพราะหม่อมแม่ภาษาอิตาเลี่ยนพิการ อังกฤษยิ่งแล้วใหญ่, การ์ดเลยบอกว่า น้องมาบอกว่าเค้าจะไปเอานม การ์ดจะเอานมด้วยมั้ย? เสน่ห์ใช้ได้เลยลูกชาย สาวมาถาม การ์ดก็เลยเปิด Video ให้หม่อมแม่ดูหน้าคนที่มาถาม น่ารักดี สไตล์เด็กฝรั่ง ได้นมแล้วก็วิ่งกลับห้องไป การ์ดบอกว่าหลานๆย่าก็น่ารักดี บางคนก็ซนไปหน่อย..

เมื่อวานการ์ดบอกว่า Mom/Dad พาไปบ้านอา ซึ่งไม่ไกลจากบ้านย่ามาก การ์ดบอกว่าแค่โรงจอดรถเค้า ใหญ่กว่าบ้านเราทั้งหลังอีก แค่ห้องน้ำก็ใหญ่กว่าห้องนอนบ้านเรา เป็นบ้าน 3 ชั้นแต่อยู่กัน 4 คนเอง 

การ์ดรายงานหม่อมแม่ว่า เดี๋ยวกลับไปบ้าน Chapter แจ้งกำหนดการมาว่า ช่วงงานคานิวาลที่จะถึง Chapter จะพาไปเที่ยวงาน 4 วันให้เตรียมตัวไว้ การ์ดบอกว่าอยู่ที่นี่ เดี๋ยวก็ไปนู่นไปนี่ กิจกรรมท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเยอะจริงๆ ผิดกับเพื่อนสนิทการ์ด ซิลเวียร์ ที่ไปอยู่เกาะ บ้านคนมีสตางค์แต่กลับไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย X'Mas ก็ไม่ได้ไปไหน ทริปที่ต้องไปเยี่ยมญาติก็กลายเป็นบ้านที่ซิลเวียร์อยู่เป็น Center ญาติจากที่อื่นต้องมาที่บ้านที่ซิลเวียร์แทน.. ชีวิตเลยเหมือนปล่อยเกาะจริงๆ 



เรื่องแปลกอีกเรื่องที่การ์ดเล่าคือ ตอนที่เพื่อนสาวจากมาเลเซียมาที่ Verona หน้าตาสีผิวก็คล้ายๆการ์ด ซึ่งคนยุโรปเมื่อเวลาเราพูดถึงคนเอเซีย เค้านึกออกแต่จีนที่เดียว ทั้งการ์ดและเพื่อนสาวมาเลเซียเวลาที่คนไม่รู้จักเห็นครั้งแรก มักจะถามว่าเป็นคนจีนเหรอ? สงสัยหน้าตาการ์ดมันจะเปลี่ยนออกไปทางจีนนิดๆแล้วมั้ง การ์ดบอกว่าเป็นคนไทยก็ดูเหมือนบางคนจะไม่รู้จักว่า มันอยู่ส่วนใดของโลก..ติดกำแพงเมืองจีนมั้ย? หรือว่าเป็นอารยธรรมเกิดใหม่ที่พึ่งค้นพบ เลยบอกให้การ์ดชวนมันมาเที่ยวเมืองไทยเลย จะได้รู้จักไทยแลนด์ซักที..


กลับถึงบ้าน..พี่ชายการ์ดก็จะไปเที่ยวหาเพื่อนที่เบลเยี่ยมต่อ(ตามเทศกาล X'Mas) คนยุโรปเค้าเดินทางไปนั่นไปนี่ในภูมิภาคเป็นเรื่องปกติกันทีเดียว เราฟังเหมือนการเดินทางข้ามประเทศกัน แต่คนภูมิภาคนี้เค้าทำเหมือนนั่งรถข้ามจังหวัดกันเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่ก็เดินทางโดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางไม่นานมาก ช่วงเทศกาลนี้การ์ดบอกว่าโรงเรียนหยุดยาวประมาณ 2 อาทิตย์ เที่ยวกันตลอด..จนลืมพ่อแม่ไปเลย

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตอน..มารู้จักโรงเรียน บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี)

โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)

            การ์ดเคยเล่าให้ฟังว่า Mom เคยถามเรื่องโรงเรียนที่การ์ดเรียนที่กรุงเทพฯเหมือนที่การ์ดเรียนที่ Verona หรือเปล่า? การ์ดตอบ Mom ไปว่า โรงเรียนบดินทรเดชา ที่กรุงเทพฯใหญ่กว่าที่นี่มาก นักเรียนก็เยอะกว่า Mom ก็เลยประหลาดใจ ค่อนข้างจะไม่เชื่อว่ามันจะใหญ่  ก็เลยจะมานำเสนอให้ดูว่า รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) ของบรรดาลูกบดินทรเลือดสีน้ำเงิน..มันจะขนาดไหน


บริเวณเสาธง, สนามบาส หน้าอาคารเรียน เป็นบริเวณที่นักเรียนมายืนเข้าแถวกันตอนเช้า และทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน






นักเรียนรวมตัวก่อนเข้าทำกิจกรรม











ทางเดินที่นักเรียนใช้เดินเข้า/ออกโรงเรียน เพื่อหลบแดดหลบฝน น้ำพักน้ำแรงจากผู้ใหญ่ใจดีที่ห่วงสวัสดิภาพลูกหลาน..



สนามบาสขนาดมาตรฐาน 2 สนาม สำหรับเด็กๆใช้เล่นกีฬาและออกกำลังกาย

ทางเข้าด้านหน้าโรงเรียน มีที่จอดรถสำหรับผู้ปกครองที่มาติดต่อโรงเรียน

บริเวณด้านหน้าลานเสาธง สถานที่ทำกิจกรรมหลักๆของโรงเรียน

หอประชุมผู้ปกครองและห้องประชุมบดินทรพิพัฒน สถานที่ประชุมของเด็กๆและผู้ปกครองในเรื่องต่างๆ


บริเวณฯรอบสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานด้านหน้าโรงเรียน 

บริเวณอาคารเรียน มีโต๊ะนั่งให้เด็กๆทำกิจกรรมและอ่านหนังสือ มีสระน้ำระหว่างอาคารเรียน



สระว่ายน้ำของโรงเรียน











ด้านหน้าโรงเรียนซ้ายมือจะมีอาคารทรงไทย คือพิพิธภัณฑ์ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี)


มาดู..กิจกรรมต่างๆที่เด็กบดินทรเดชา เค้าทำกัน..

 




Credit รูปภาพและ Video จากเว็ปไซด์ของโรงเรียนและ Bodin Zone


SWOP มารู้จักอีกโรงเรียนที่การ์ดได้มีโอกาสได้เข้าไปเรียน คือ 
Liceo Scientifico A.Messedaglia

เป็นโรงเรียนสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งการ์ดได้โรงเรียนนี้อาจเพราะว่าตอนกรอกข้อมูลประวัติการศึกษาจากกรุงเทพฯระบุว่าเรียนสายวิทย์มา ทาง AFS ITALY ก็เลยจัดโรงเรียนสายวิทยาศาสตร์โรงเรียนนี้ให้ การ์ดบอกว่าการเรียนการสอนก็คล้ายกับที่เรียนอยู่ เพียงแต่สอนเป็นภาษาอิตาเลี่ยน  แรกๆก็นั่งเอ๋อๆฟังไม่รู้เรื่องแต่ตอนนี้น่าจะพอฟังออกบ้างแล้ว เพราะบอกพ่อว่าอิตาเลี่ยนเริ่มเข้มแข็งขึ้น พอฟังออก พูดได้บ้าง มีเกทับว่าถ้าเข้าใจง่ายกว่าภาษาไทยอีก..จะรอดู

ยังหาภาพของโรงเรียนที่การ์ดเรียนไม่ได้(ลูกชายยังไม่ส่งภาพมาให้ดู) การ์ดบอกว่าโรงเรียนมีขนาดเล็กกว่าที่บดินทรมาก เนื่องจากเค้าจะแยกเด็กที่เรียนออกอย่างชัดเจน เด็กที่ชอบศิลป ก็ไปเรียนรวมกันที่โรงเรียนศิลป ส่วนเด็กสายวิทย์ก็เรียนที่โรงเรียนที่การ์ดเรียน แยกกันอย่างชัดเจน ไม่ได้เรียนรวมเป็นสหศึกษาแบบบ้านเรา

โรงเรียนที่การ์ดเรียนจะสไตล์แบบเมืองนอก คือนักเรียนไม่ได้ใส่เครื่องแบบ แต่งฟรีสไตล์แบบเรียบร้อย ไม่น่าเกลียด ผมเผ้าก็ไว้ยาวได้ ไม่ระเบียบแบบบ้านเรา บ้านเราคุมเข้มตั้งแต่หัวจรดเท้า (ตั้งแต่สมัยพ่อเรียนแล้วลูกเอ้ย) แต่ยังไงแบบไทยๆก็มีข้อดีกว่าชาวบ้านเค้ามากพอสมควร..โตไปมีลูกมีหลานก็จะรู้เอง







ตอน.. สาระน่ารู้บ้างนิดหน่อย เกี่ยวกับอิตาลี

ซื้อของใช้..
การ์ดบอกว่า ที่บ้าน Mom ไปซื้อของใน Supermarket กันบ่อย, ซื้อแต่ละครั้งก็ไม่มาก แค่พอกินพอใช้ ไม่ค่อยซื้อมาสำรองหรือตุนไว้ที่บ้านมากนัก ไม่เหมือนบ้านเราที่กรุงเทพฯ ที่พ่อซื้อของทีนึงเต็มรถเข็นเลย แล้วก็มาเก็บที่ครัวกับตู้เย็น เป็นทุนสำรองให้ลูกชายทั้งสองเปิดกินเปิดใช้ไปได้ทั้งวัน(จนเกลี้ยงตู้, พ่อก็เติมให้อีก) 

Mcdonald..

การ์ดเล่าว่าที่ Verona มีร้าน Mcdonald อยู่ไม่กี่ร้านเอง, ทั้งเมืองเท่าที่เห็นน่าจะซัก 2-3 ร้านได้ ขนาดเป็นเมืองท่องเที่ยวยังมีอยู่แค่เนี้ย ผิดกับเมืองไทย เอาแค่ระแวกบ้านพ่อกับแม่ Mcdonals ก็เกือบ 10 ร้านเข้าไปแล้ว ในประเทศที่เจริญกว่ากลับมีร้าน Fast Foods อยู่น้อยมาก..เมื่อเทียบกับประชากร หรือเป็นเพราะว่ามาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีกว่า คนรู้จักกินรู้จักใช้มากกว่า.. การ์ดเคยไปกิน Mcdonald แล้วมาเล่าว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ขนาดที่เล็กกว่าที่ขายในเมืองไทย และ ราคาที่แพงกว่ามาก เด็กไทยคนนี้เลยไม่ค่อยเข้าร้าน Mcdonald เท่าไหร่ หากไม่จำเป็น


การ์ดบอกว่าเวลาที่การ์ดหิว การ์ดก็จะเปลี่ยนจากการที่ต้องซื้อ Fast Foods อย่าง Mcdonalds มาซื้อพวกเคบับแทน(อาหารสไตล์อาหรับหรือมุสลิมนี่แหละ) การ์ดบอกว่า อร่อยกว่า ถูกกว่า และปริมาณมากกว่า ทานชิ้นเดียวอิ่ม แต่ราคาก็ประมาณ 2 EURO (80บาทไทย) ถ้าเลือกที่จะทานอาหารก็ประมาณ 10-15 EURO (400-600บาท/มื้อ)  


ความภาคภูมิใจ..


การ์ดบอกว่าสนามบินที่การ์ดผ่านมา มันเทียบไม่ได้กับสนามบินบ้านเราเลย สนามบินสุวรรณภูมิมันใหญ่ม๊วากกก กว่าจะเดินไปขึ้นเครื่องได้ เดินแล้ว เลี้ยวแล้ว ยังไม่ถึงเครื่องซักที  สนามบินที่อิสตันบูลและอิตาลียังใหญ่สู้สนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้ น่าจะเป็นความภาคภูมิใจของเราคนไทยน่ะ..




วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตอน..เมื่อความหนาวมาเยือน

CARD Story..

อาสาสมัคร AFS

การ์ดเล่าว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน ต้องไปช่วยพี่ชายสัมภาษณ์เด็กอิตาเลี่ยนที่สอบผ่านข้อเขียน เพื่อคัดคนที่มีความสามารถในการไปใช้ชีวิตต่างแดนได้ พี่ชายการ์ดเป็นคนสัมภาษณ์, ส่วนการ์ดสัมภาษณ์ยังไม่ได้ ก็เลยอาสาคอยเปิดประตูให้คนเข้าไปสัมภาษณ์ห้องพี่ชายทีล่ะคนแทน เป็นไง..อาสาสมัคร AFS สัญชาติไทย

Camera Connectivity Kit

การ์ดมีกล้อง Digital ที่ถ่ายภาพและ Video ได้, แต่เมื่อเวลาที่จะต้องส่งภาพหรือไฟล์กลับมาบ้าน จำเป็นต้องไปขอ Notebook Mom ใช้เนื่องจาก Card Reader ที่เอาไป มันเสียบตรงเข้า iPad ไม่ได้, ต้องเสียบผ่าน Notebook เท่านั้น เลยเป็นปัญหาของลูก ว่าส่งรูปส่งไฟล์ไม่ได้ซักที เมื่อเห็นอุปกรณ์ชุดนี้ออกมาก็เลยว่าจะซื้อแล้วส่งไปให้การ์ด เลยไปเล่าให้การ์ดฟัง, วันรุ่งขึ้นมารายงานเลยว่าที่นู่น 29 EURO จะให้ซื้อเลยหรือเปล่า ราคาแพงกว่าเมืองไทยไม่มาก, ก็เลยให้การ์ดจัดไปเลย วันก่อนบอกว่าซื้อมาเรียบร้อยแล้ว แต่มัยพ่อกับแม่ยังไม่ได้รับรูปหรือไฟล์เพิ่มเลย..ไอ้ลูกคนนี้มันยังไง?

คาร์โล


การ์ดมีโอกาสไปช่วยงานเพื่อนของ Mom จำไม่ได้ว่าการ์ดเล่าว่าไปช่วยทำอะไร, แต่หลังจากทำเสร็จ เพื่อนของเพื่อน Mom อีกทีชวนการ์ดเล่นกีฬาอย่างนึง..การ์ด post ใน FB บอกว่า "ในขณะที่เพื่อนบางคนไปดูหนัง ไปฟังเพลง ไปช๊อปปิ้ง..แต่กูต้องมาเล่นเปตอง" เพื่อนของเพื่อนแม่ชวนการ์ดเล่นเปตอง..(การ์ดบอกว่าเพื่อนแม่อายุประมาณ 60 กว่าๆได้) 
หลังจากจบเกมส์..การ์ดก็เปลี่ยนชื่อเป็น "คาร์โล"

พายุหิมะ..มาแว้ว

อากาศที่อิตาลีตอนนี้อุณหภูมิติดลบ, พายุหิมะพัดเข้ามาที่เมืองที่การ์ดอาศัยอยู่ หม่อมแม่ถามลูกชายเรื่องพายุหิมะว่ามันเป็นยังไง เหมือนฝนตกมั้ย(ดูเปรียบเทียบ) แล้วตกตลอดเลยหรือเปล่า จนการ์ดต้องมาอธิบายว่ามันก็ตกบ้างหยุดบ้างแบบฝนตก ถ้าตกหนักๆแบบวันนี้กับเมื่อวานก็ออกบ้านไปไหนไม่ได้ การ์ดบอกหม่อมแม่ว่าไม่ได้ไปเรียนมา 2 วันแล้วเนื่องจากพายุหิมะ ถนนหนทางมีแต่หิมะเต็มถนนไปหมด จนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และอากาศก็หนาวเกินไปสำหรับการออกนอกบ้าน ลูกชายคนโตของตระกูลเลยต้องเป็นกบจำศีลอยู่ที่บ้าน

ทิ้งขยะ

หม่อมแม่ถามเรื่องบ้านเมืองที่ Verona ว่าบ้านเมืองเค้าเป็นยังไง, สะอาดหรือสกปรก เหมือนเมืองไทยมั้ย? ลูกชายก็ตอบกลับหม่อมแม่จนหม่อมแม่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก การ์ดบอกว่าหน้าบ้านที่การ์ดอยู่ไม่มีถังขยะ ข้างๆบ้านก็ไม่มี ทั้งหมู่บ้านก็ไม่มี และทั้งเมืองที่การ์ดอยู่ไม่มีถึงขยะ ไม่มีที่ทิ้งขยะ..หม่อมแม่อุทาน อกอีแป้นแตก..เป็นไปได้ยังไง ทั้งเมืองไม่มีที่ทิ้งขยะ แล้วขยะในบ้านไม่มีเหรอ ลูกชายสุดที่รักก็ตอบแม่ว่า มันจะไม่มีได้ยังไง ขยะมันก็มีทุกวันแหละ เวลามีขยะก็เอาใส่ถุงรวบๆแล้วก็ผูกปากไว้ พอได้ซัก 2-3 ถุง Dad ก็เอามาใส่ท้ายรถครับ..แล้วก็ แล้วก็ ขับรถเอาไปทิ้งอีกเมืองนึงที่อยู่ติดกัน ถึงบางอ้อเลยหม่อมแม่ เค้าบริหารจัดการขยะกันอย่างมีระบบไม่ได้ทิ้งสะเปะสะปะแบบบ้านเรา มีที่ทิ้งเป็นจุดๆ การบริหารจัดการขยะของแต่ละบ้านก็เป็นระบบระเบียบ มีการแยกขยะเพื่อให้สามารถสะดวกในการเอาไป Recycle ต่อไป..เป็นบ้านเราคงเห็นถังขยะกันเต็มหน้าบ้าน, ข้างบ้าน, หลังหมู่บ้าน อายเค้าจังเลย..แบบไทยๆ

หมวกไหมพรม

อากาศช่วงนี้หนาวมากๆสำหรับเด็กไทย ม.ปลายสายวิทย์ จากบดินทรเดชา การ์ดบอกว่าทุกครั้งที่ออกนอกบ้านไปเรียนต้องใส่ 3 ชั้น วัดความหนาได้ 20 ซม.(มิน่าดูลูกมันอ้วนจัง) ไม่งั้นเอาไม่อยู่ วันนึงหลังจากกลับบ้าน Mom ก็เอาของขวัญมาให้การ์ดชิ้นนึง การ์ดแกะออกดูปรากฎว่าเป็นหมวกใส่กันหนาว(แบบที่วัยรุ่นใส่ครอบหัว)พิมพ์คำว่า ITALY อยู่กลางหมวก ใส่แล้วอุ่นหัวดี ถูกใจลูกชายมาก.. ต้องขอบคุณ Mom มากที่ดูแลห่วงใยการ์ดเป็นอย่างดี..

เพื่อนสาว..จากมาเลเซีย

การ์ดบอกว่า เมื่อไม่กี่วันมานี่ Chapter เรียกให้เด็ก AFS ทุกคนในเมือง Verona ไปต้อนรับเด็กมาเลเซียที่มาใหม่ ซึ่งเป็นคอร์สระยะสั้นประมาณ 2 เดือน ซึ่งจะมาอยู่ที่ Verona เพิ่มอีกคนหนึ่ง การ์ดบอกว่าเป็นเพื่อนสาว การ์ดน่าจะช่วยเพื่อนสาวได้มากเพราะมาจากภูมิภาคเอเซียด้วยกัน แต่ยังไม่ได้สนิทกันมากนักเพราะพึ่งเจอ แต่เชื่อว่าลูกชายคงใช้ยิ้มสยามปูทางตีซี้ต่อไป..

เตรียมไปบ้านญาติทางตอนใต้

วันศุกร์นี้การ์ดบอกหม่อมแม่ว่า หลังจากเรียนเสร็จกลับมาบ้าน Mom กับ Dad และพี่ชายทั้งสองคนก็จะเดินทางไปบ้านพี่สาว Mom ที่ตอนใต้ของประเทศ ซึ่งครั้งนี้การ์ดต้องไปด้วยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่บ้าน Mom&Dad ต้องไปทุกคริสมาสต์ แต่ละคนก็เตรียมของขวัญสำหรับไปมอบให้ญาติอันเป็นที่รัก ซึ่งรวมทั้งการ์ดด้วยที่เตรียมไปจากเมืองไทย(โดยการคัดสรรจากหม่อมแม่, แต่ตังส์ท่านพ่อ) หม่อมแม่และการ์ดเจรจากันแล้วว่า อะไรต้องให้ใคร เมื่อไหร่ ซึ่งลูกชายเข้าใจดี..มีตั้งแต่กระเป๋าผ้า Naraya, รถสามล้อ อันเป็นสัญลักษณ์เมืองไทย และเข็มกลัดลายไทยอีกหลายอัน การ์ดน่าจะเป็นคนที่เตรียมของที่ระลึกไปแจกมากที่สุด เนื่องจากหม่อมแม่กลัวว่าจะไม่พอแจก เลยจัดหนักไปหน่อย..จนเกือบจะขึ้นเครื่องไม่ได้วันเดินทาง เกินไป 2-3 กก.ตามที่ AFS กำหนด แต่บังเอิญสายการบินเค้าให้ผ่าน การ์ดเลยโอเค..

การ์ดบอกว่า ถนนหนทางระหว่างเมืองบางช่วงเป็น 6 เลนบ้าง 4 เลนบ้าง แต่สภาพถนนเรียบมาก เวลาขับรถจะนิ่งและนิ่มแทบจะไม่รู้สึกเลย สามารถใช้ความเร็วได้ดี Dad ขับ 100 กว่าสบายๆ การจราจรก็ไม่ติดขัดและรถมากแบบบ้านเรา หม่อมแม่และพ่อถามการ์ดว่าในเส้นทางมีผ่านบ้านเพื่อนคนไทยหรือเปล่า.. การ์ดบอกว่ามีแต่ต้องเลยไปอีก 100 กว่ากม.ถึงจะมีบ้านเพื่อน คงเลยไปต่อเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนไม่สะดวก ถ้าเป็นทางผ่านการ์ดก็กะจะขอ Mom&Dad ให้แวะให้หน่อย


ภาษาอิตาเลี่ยน..ง่ายนิดเดียว

หม่อมแม่ถามเรื่องการเรียน..การ์ดบอกว่าไม่มีอะไรมาก หม่อมแม่เลยถามเรื่องภายในบ้าน ยังไปทำให้ Mom อารมณ์เสียอีกหรือเปล่า การ์ดบอกว่าเดี๋ยวนี้เค้ากับ Mom ดีกันแล้ว..ตั้งแต่การ์ดโต้ตอบกับ Dad&Mom เป็นภาษาอิตาเลี่ยน การ์ดบอกว่าเดี๋ยวนี้การ์ดไม่พูดภาษาอังกฤษกับ Mom แล้ว เพราะ Mom แปลสับสน ไม่รู้เรื่อง การ์ดเลยสื่อสารเป็นอิตาเลี่ยนแทน หม่อมแม่ประหลาดใจมากถามการ์ดว่าพูดได้แล้วเหรอ ลูกชายเกทับทันที นี่การ์ดน่ะแม่ การ์ดว่ามันไม่มีอะไรเลย แค่จับจุดได้แล้วก็จำศัพท์ให้ได้ การ์ดก็พูดให้ Mom & Dad เข้าใจได้แล้วกัน Mom ยังบอกเลยว่าการ์ดเก่ง ดันบอกอีกว่า ถ้าแม่เข้าใจแม่จะว่ามันง่ายกว่าพูดภาษาไทยอีก เป็นไงล่ะ เด็กไทย สัญชาติไทย.. หม่อมแม่ก็ค่อนข้างแน่ใจในความสามารถลูกชาย เพราะเคยได้ยิน Dad ตะโกนพูดอะไรกับการ์ดไม่รู้ แล้วการ์ดก็ตอบอิตาเลี่ยนกลับไป หม่อมแม่ถามการ์ดว่า Dad พูดว่าอะไร การ์ดบอกว่า Dad บอกให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมออกไปข้างนอกกัน..เป็นไงล่ะลูกชายเรา

ไส้กรอก&ไวน์

มีอยู่ครั้งนึงที่ Mom พาการ์ดไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง บ้านเค้าเป็นบ้านที่อยู่กลางสวนองุ่น บรรยากาศแบบท้องถิ่นอิตาลี บ้านเค้าบ่มไวน์ที่ห้องใต้ดิน ซึ่งการ์ดเดินลงไปดูบอกว่าถังบ่มไวน์เต็มไปหมด บางถังมีอายุกว่า 10 ปี, และบางถังบ่มตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ของเพื่อน Mom ชั้นบนก็มีไส้กรอกแขวนเต็มเป็นราวเลย การ์ดจับดูมันแข็งๆเหมือนไส้กรอกอีสานแต่เรียวกว่า(พูดซะเสียยี่ห้อเค้าเลย) บ้านเพื่อน Mom ขายเหล้าไวน์และไส้กรอก การ์ดบอกว่าเคยกินไส้กรอกอิตาเลี่ยน อร่อยดี แต่มีหลายแบบ บางแบบก็เปรี้ยวๆ บางแบบก็ชีสเยอะ ไส้กรอกทางยุโรปจะไม่เหมือนทางบ้านเรา การ์ดบอกว่าเค้าทำยังไงไม่รู้เพราะวันนั้นก็ไม่เห็นเค้าทำ รู้แต่ว่าทำเสร็จก็เอามาบ่มในห้อง แล้วมันก็จะแข็งขึ้นเรื่อยๆ เวลาจะกินก็ต้องปอกเอาเปลือนอกออกก่อน เพื่อน Mom บอกว่าบางอันที่เค้าเก็บไว้อายุกว่า 10 ปีแต่ไม่เสียน่ะ ยังกินได้อยู่ ทำตั้งแต่สมัยเค้ายังหนุ่มๆ นับเป็นวิธีการถนอมอาหารที่แปลกมาก เป็นความรู้ใหม่ที่เด็กไทยสายวิทย์ได้รับมา..

** ลืมบอกให้การ์ดขอมาให้พ่อชิมซักถังนึง(เพื่อนเยอะ, น้องก็เยอะกลัวไม่พอแจก **