ยินดีต้อนรับสู่บล็อก CARD Story.. AFS รุ่นที่51 @Verona ITALY ลูกชายคนโตของครอบครัว, จาก รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กรุงเทพฯ

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

ตอน..กรุงโรม เมืองแห่งสถาปัตยกรรม

CARD Story..

ช่วงหนึ่งของการใช้ชีวิตในต่างแดนของการ์ด จะต้องแลกเปลี่ยน Host ระหว่างเด็ก AFS ด้วยกัน การ์ดเลือกที่จะกลับมาที่โรม เพราะตอนขามาจากเมืองไทย, ต้องนั่งรถไฟจากโรมไป Verona มีเวลารอรถไฟอยู่ไม่กี่ ชม. ก็เลยคิดว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาที่โรมอีกครั้ง พอมีโอกาสก็เลือกโรม, ซึ่งการ์ดก็โชคดีอีกที่มีอาสาสมัคร AFS เลือกรับการ์ดเข้าบ้าน

การ์ดเล่าว่า Host Mom มารับการ์ดที่สถานี Mom แต่งตัวธรรมดาๆแต่ก็เรียบร้อยดี พาเดินไปขึ้นรถแวน, การ์ดบอกว่าใบไม้เต็มหลังคารถเลย แล้ว Mom ก็ขับรถพาไปที่บ้าน, ลักษณะเป็นตึกคล้ายคอนโด ข้างนอกก็ดูธรรมดา ขึ้นไปข้างบนชั้นที่ Mom อยู่แบ่งออกเป็น 2 บ้านใหญ่ๆ เป็นบ้านของ Mom เองหลังนึง การ์ดบอกว่าพอเปิดบ้านเข้าไป อลังการงานสร้างเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกับภาพที่จินตนาการไว้ตอนแรกเลย ข้างในใหญ่มากและดูหรูหรา ระดับผู้มีอันจะกินเลยทีเดียว การ์ดยังบอกอีกว่าทั้ง Mom และ Dad ทำงานอยู่ในหน่วยงานของรัฐบาล มีลูกชายและลูกสาวรวม 5 คน การ์ดบอกว่า Mom กับ Dad เป็ตระกูลคนเก่าแก่ของอิตาลี ถ้าจะเทียบกับคนไทยก็ระดับ ณ.อยุธยา ประมาณนั้น

ลูกชายคนโตน่าจะแก่กว่าการ์ดหน่อย รองๆลงมาก็อายุน้อยกว่าการ์ด แต่ Highlight ไปอยู่ที่ลูกชายคนเล็กซึ่งการ์ดเล่าว่า มันติดการ์ดมากๆ การ์ดบอกว่าบ้าน Mom มีทุกอย่าง ที่สำคัญคือได้มาเจอ XBox รุ่นใหม่ล่าสุด และลูกชายคนเล็กของ Mom ก็ติดเกมส์ เล่นกับพี่ๆก็ทะเลาะ มาเจอการ์ดสอนเล่นเกมส์ คราวนี้ติดหนึบเลย พี่เพ่อไม่สนใจแล้ว เอาการ์ดคนเดียวเลย ดีที่คุยกันรู้เรื่องเพราะอิตาเลี่ยนการ์ดเริ่มคล่องปรื่อแล้ว เลยไม่เป็นปัญหาในการสื่อสารกับทั้งครอบครัวของ Mom & Dad 

การ์ดต้องใช้ชิวิตอยู่ที่กรุงโรมกับครอบครัวใหม่ 1 อาทิตย์ แล้วจึงจะกลับไป Verona โดยการ์ดจะมาเจอกับเพื่อน AFS ใหม่ที่มาเมืองนี้ด้วยกันมีทั้ง มองโกเลีย, จีน มีครั้งนึงที่เด็กจีนทำอาหารมาเลี้ยงโดยมีข้าวสวยมาด้วย การ์ดบอกน้ำตาจะไหล ได้กินข้าวอร่อยๆซักที ปกติข้าวที่อิตาลีจะแฉะๆไม่อร่อย นอกนั้นก็พิซซ่า ลาซัญญา เกือบทุกมื้อ แต่แม่บ้านที่บ้าน Mom ก็ทำกับข้าวอร่อยมาก การ์ดบอก

วันต่อๆมาเริ่มจาก Chapter พาไปดู รร.ใหม่ที่ต้องมาเรียนระยะสั้นๆ แล้วก็พาไปเดินกลางกรุงโรม การ์ดบอกว่าที่ต้องขอเงินพ่อกับแม่เพิ่มเพราะว่าค่าใช้จ่ายในเมืองใหญ่อย่างกรุงโรมนั้นแพงมาก Coke กระป๋องละ @5 Euros ก็ประมาณ @200 บาท/กระป๋องเอง กินข้าวแต่ละมื้อเกือบ 15 Euro 600 บาท เวลาไปเที่ยวก็ต้องไปกินข้าวนอกบ้านกัน พากันไปดูสตูดิโอถ่ายหนัง ค่าบัตรเข้าก็ @15 Euros หรือบัตรเข้าไปดูพิพิธภัณท์ก็แสนแพง @15 Euros แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากไปไหนก็ไป ใช้จ่ายตามสมควร รู้ว่าลูกชายไม่ได้เป็นเด็กเหลวไหล คุงพ่อก็โอนเติมให้ตลอด.. 

มาดูภาพกรุงโรม..กัน











มีร้าน Original Levi's ด้วย



























ลานน้ำพุที่การ์ดบอกว่า นักท่องเที่ยวจะมาโยนเหรียญเพื่ออธิฐานให้ได้กลับมากรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง, ซึ่งลูกชายก็โยนกับเค้าเหมือนกัน











1 อาทิตย์ในกรุงโรมให้ประสบการณ์กับลูกชายมาก, เที่ยวทั้งวัน และเป็นช่วงที่เปลี่ยนถ่ายสันตปาปาด้วย แต่การ์ดไม่ได้เห็น เพราะเค้าทำพิธีกันในโบสถ์ รู้แต่ว่ามีการเฉลิมฉลองสันตปาปาองค์ใหม่กัน, ได้ไปดูหนัง ไปดูโคลัสเซียม บ้านเมืองที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมเอาไว้ สมกับเป็นเมืองเอกในประวัติศาสตร์โรมัน ซึ่งการ์ดมันชอบมาก เดินได้เป็นวันๆ

ช่วงที่การ์ดไปอยู่โรม ตรงกับเทศกาลอีสเตอร์พอดี, Mom กับ Dad พาไปทานข้าวร้านเพื่อน และลูกเจ้าของร้านได้ให้ไข่อีสเตอร์ช็อคโกแล็ตใบใหญ่การ์ดมาใบนึง การ์ดอยากเอากลับมาฝากน้องแต่ว่าด้วยความบอบบางของมัน คาดว่าคงมาไม่ถึงกรุงเทพแน่นอน เลยบอกให้การ์ดกินซะไม่ต้องเอามาฝากน้อง




วันที่การ์ดต้องเดินทางกลับ Verona ลูกชายคนเล็กของ Mom ที่ติดการ์ดมาก มาปลุกการ์ดตั้งแต่หกโมงเช้า ให้มาเล่น Xbox กับเค้าก่อนกลับ(รถไฟการ์ดออกตอน 09.00 AM) การ์ดก็ตามใจน้อง, ออกมานั่งเล่นด้วย เป็นที่ถูกใจของเจ้าตัวเล็ก การ์ดก็สนุกไปกับน้องด้วย จนถึงเวลาต้องเดินทาง การ์ดบอกกับน้องว่า ก่อนการ์ดจะกลับเมืองไทย ต้องผ่านมาที่กรุงโรมอีกครั้งเพื่อมาต่อเครื่อง ถ้ามีเวลาการ์ดจะแว๊บมาเยี่ยม Mom กับน้องก่อนกลับเมืองไทย เจ้าน้องคนเล็กดีใจมาก ถามย้ำอยู่นั่นและว่าต้องมาให้ได้น่ะ การ์ดก็รับปากน้องไป..เพราะยังไงก็ต้องมาให้ได้ก่อนกลับ..

การ์ดกลับมาถึง Veorna วันรุ่งขึ้นก็ต้องไปใต้กับครอบครัว Host อีกครั้ง ไปเมืองที่เคยไปเมื่อตอนคริสมาสต์ แต่คราวนี้ไปพักที่บ้านพี่สาว Mom เพื่อฉลองเทศกาลอีสเตอร์ของครอบครัว

เป็นช่วงหลายวันที่ไม่สามารถติดต่อการ์ดได้ และที่กรุงเทพฯก็วุ่นๆกับการสอบเข้า ม.1 ของน้องปาล์ม, เลยไม่ได้ติดตามการ์ดมากนัก การ์ดเองก็ยุ่งๆกับการเดินทาง และไม่สะดวกที่จะติดต่อกลับ พึ่งจะได้คุยกันเมื่อวันนี้เองถึงได้เล่าเรื่องต่างๆให้พ่อเล่าต่อให้เพื่อนๆฟัง


การ์ดเล่าว่าขากลับขับรถมาได้ครึ่งทาง, รถเกิดเสียขึ้นมา ไปต่อไม่ได้ ต้องรอรถมาลากเข้าอู่ ก่อนที่จะขับกลับมาก็เอาารถเข้าอู่มาแล้ว แต่ช่างบอกว่าขับไปได้ ก็เลยขับออกมา แต่กลับไปได้ไม่ตลอด มาเสียกลางทาง ตอนที่รถเสียก็มืดมากแล้ว ประมาณสี่ทุ่ม กว่ารถลากจะมาก็เป็น ชม. จนสุดท้ายต้องหาโรงแรมพักค้างคืนกัน การ์ดเล่าว่าก็เป็นโรงแรมเล็กๆไม่ใหญ่มาก เข้าไปข้างในกลับหรูหราระดับ 5 ดาว การ์ดมักจะเจออะไรที่ไม่คาดฝัน ข้างนอกกับข้างในแตกต่างกันอย่างมาก และที่ทำให้การ์ดแปลกใจเอามากๆก็คือ ข้อความที่ติดอยู่ตามทางเดิน "มีบริการนวดแผนไทย" เด็กกรุงเทพฯก็งงซิ ดันมีข้อความภาษาไทยแปะไว้ให้อ่าน แต่ก็ยังไม่ได้หาคำตอบหรอกเพราะต้องรีบเข้าพักผ่อนกัน แต่ที่ผิดแผนก็คือกระเป๋าเสื้อผ้าที่ติดรถไปด้วยที่ไม่ได้เอาออกมา ทำให้ต้องอาบน้ำและนอนชุดเดิมกัน

การ์ดเล่าว่านึกว่า Mom จะนอนห้องเดียวกันหรือจองห้องแบบรวมๆ ที่ไหนได้ Mom จองให้นอนกันคนล่ะห้องเลย ห้องขนาด 2 เตียง ไปกัน 5 คนจอง 4 ห้อง, การ์ดเลยสบายไปเลย การ์ดบอกว่าก่อนมาตอนเอารถไปซ่อมมีทำประกันรถไว้ด้วย พอรถเสียเลยไม่ต้องจ่ายอะไร ประกันจ่ายให้หมด 
การ์ดบอกว่า โรงแรมที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง, ไม่ว่าจะเป็น TV จอแบน, เครื่องปรับอากาศ และที่สำคัญ Sea View อีกต่างหาก เลยได้กำไรชีวิตแถมตอนขากลับบ้านไปเลย วันรุ่งขึ้นรถซ่อมเสร็จก็เดินทางต่อมาถึงบ้าน..จนมาได้คุยกับพ่อกับแม่จนได้

End..






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น