ยินดีต้อนรับสู่บล็อก CARD Story.. AFS รุ่นที่51 @Verona ITALY ลูกชายคนโตของครอบครัว, จาก รร.บดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

ตอน..กรุงโรม ภาคสอง

การ์ด Upload รูปที่ไปเที่ยวโรมมาเพิ่ม แต่ไม่ได้อธิบายว่าแต่ละรูปคือที่ไหน เลยต้อง Upload เฉพาะรูปมาให้ดูเท่านั้น มาดูกันต่อ..



















































































ช่วงที่การ์ดอยู่อิตาลี จะบอกการ์ดเสมอว่าให้หาอะไรทำ, จะได้ไม่เบื่อ อยากจะเรียนอะไรก็บอกมา การ์ดก็ไปหาคอร์สเรียนต่างๆ ทั้ง เต้น, หรืออะไรต่อมิอะไร จนล่าสุดมาเสนออีก 2 คอร์สคือ ขอเรียนถ่ายรูป กับวาดรูป คอร์สถ่ายรูปเป็นแฟนหรือญาติของ Chapter เปิดสอน การ์ดดูจะสนใจเรื่องถ่ายรูป(ไม่รู้เหมือนใคร) ก็เลยให้ไปเรียน ค่าเรียนก็ไม่แพงมา ประมาณ @50 Euros/10 ครั้ง เพิ่มประสบการณ์มุมมองแบบคนยุโรปให้ลูกชายหน่อย



กับอีกอันที่การ์ดสนใจเรื่องวาดรูปมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ การ์ดวาดรูปเก่งมาก การ์ตูนดูเรื่องไหนมาวาดตัวละครได้หมด วาดผิดอยู่อย่างเดียวคือ สับปะรด วาดเป็นต้นมะม่วงเลย ออกดอก แล้วออกผลเป็นสับปะรด ห้อยเป็นลูกมะม่วงบ้านยายเลย คงเป็นความผิดของพ่อแม่ที่ไม่ได้พาลูกไปดูว่า เค้าปลูกสับปะรดกันยังไง แย่จัง..



หม่อมแม่ถามเรื่องภาษาอังกฤษและอิตาเลี่ยนว่าได้ขนาดไหนแล้ว การ์ดบอกว่าอิตาเลี่ยนการ์ดพูดได้เหมือนคนพื้นที่แล้ว คิดว่าอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาได้, สื่อสารได้อย่างที่อยากจะบอก ความดีส่วนหนึ่งต้องยกให้ Chapter และมาตรฐานที่ทาง AFS กำหนดหลักสูตรปฏิบัติมา นักเรียนโครงการทุกคนจะได้รับการสอนภาษาที่สาม ของการ์ดก็คือภาษาอิตาเลี่ยนโดย Chapter ที่ดูแลเด็กๆจะเปิดคอร์สสอนให้เด็ก AFS ทุกคนเรียน Chapter คนอื่นสอนเด็กสัปดาห์ล่ะ 4 ครั้งประมาณเดือนนึงก็จบหลักสูตร แต่ Chapter ที่ดูแลการ์ดกลับสอนการฺ์ดสัปดาห์ล่ะครั้ง คอร์สสอนภาษาอิตาเลี่ยนการ์ดเลยยืดไปมากกว่ากลุ่มอื่น แต่กลับเป็นผลดีที่เด็กเรียนในห้องเรียนแล้วไปเติมเต็มข้างนอกอีกอาทิตย์นึง แล้วกลับมาเรียนต่อ เป็นอย่างนี้ไปนานเลย เพราะเรียนอาทิตย์ล่ะครั้ง เลยทำให้เด็กกลุ่ม Chapter การ์ดดูจะแน่นภาษาอิตาเลี่ยนมาก รวมทั้งลูกชายด้วย



ใน Verona เองมีเพื่อนของ Dad ที่ได้เมียเป็นคนไทย, การ์ดเคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งแล้วพี่เค้าก็เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมสามีอิตาเลี่ยนเพื่อมาเยี่ยมบ้านภรรยา การ์ดเล่าว่าพี่เค้าเป็นคนอีสาน มาอยู่อิตาลีได้ประมาณปีนึงแล้ว แต่ยังพูดอิตาเลี่ยนไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยได้ สามีก็พูดอังกฤษไม่ได้ หม่อมแม่เลยส่งสัยว่าแล้วเค้าคุยภาษาอะไรกัน พ่อเลยบอกว่าแค่มองตาก็รู้ใจแล้วมั้ง พูดกันคนละภาษาก็อยู่กันได้ เลยกลายเป็นที่มาว่าเพื่อนของ Dad ที่เป็นคนอิตาลีเคยถาม Dad การ์ดว่าอยากให้การ์ดมาช่วยสอนอิตาเลี่ยนให้แฟนเค้าหน่อย อาจเป็นเพราะมีภาษาถิ่น(ภาษาไทย)ที่พูดกันรู้เรื่อง น่าจะสอนอิตาเลี่ยนให้แฟนเค้าเข้าใจได้ดีกว่าเค้าสอน ซึ่งการ์ดคุยนักคุยหนาว่าอิตาเลี่ยนไม่ยากถ้าเข้าใจ คุณพ่อลองถามบางอย่างไปการ์ดก็อธิบายกลับมา ซึ่งรู้ได้เลยว่ามันรู้จริง, หม่อมแม่เลยบอกว่าให้การ์ดไปช่วยสอนพี่สาวแฟนเพื่อนพ่อเลย คนไทยด้วยกัน ถ้าพูดไม่ได้เค้าน่าจะอึดอัด ซึ่งการ์ดก็บอกว่าเดี๋ยวถ้าเจอจะไปช่วยสอนพี่เค้า เป็นไงลูกชายจะกลายเป็นครูสอนภาษาอิตาเลี่ยนไปแล้ว เคยคิดน่ะว่าถ้าการ์ดกลับมาแล้ว อยากให้การ์ดเป็นอาสาสมัครช่วยสอนเด็ก AFS ที่่จะไปเรียนที่อิตาลีในรุ่นต่อๆไป จะได้เตรียมปรับตัวได้ดีกว่าไปเผชิญตอนไปจริง หลายคนที่เครียดกับการสื่อสารไม่ได้ เลยพาลคิดถึงบ้าน หมดสนุกกันพอดี


หลังจากที่ภาษาอิตาเลี่ยนเด็กๆแข็งแรงขึ้น Chapter ที่ดูแลการ์ดก็เริ่มมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมให้เด็กๆกันอีกแล้ว, การ์ดบอกว่า Chapter สั่งให้เด็กๆ AFS ทุกคนไปเตรียมเล่านิทานมาคนล่ะเรื่อง การ์ดไป Search หานิทานไทยเตรียมจะไปเล่า โดยออกแนวเวตาล ออกแนวเรื่องผีๆ Chapter บอกไม่ผ่าน จะให้ไปเล่าให้เด็กฟัง เดี๋ยวเด็กกลัว เพราะเด็กที่จะให้ไปเล่าเป็นเด็กระดับประถม ถ้าการ์ดอยู่กรุงเทพฯตอนนี้คงเอาเรื่อง พี่มาก พระโขนงไปเล่าได้น่ะ หน้ายิ้มอย่างการ์ดถ้าเล่าเรื่องนี้ อย่างฮา แน่นอน(ภาคภาษาอิตาเลี่ยนอีกต่างหาก)


เล่าไปเล่ามา ก็มาถึงเรื่องโทรศัพท์ที่การ์ดบอกว่าโปรโมชั่นที่การ์ดใช้อยู่ @12 Euros/เดือนมันมีเน็ต 3G Unlimited อยู่ด้วย แต่โทรศัพท์การ์ดดันเป็น 2G เล่นเน็ตก็ไม่ได้ พอลูกพูดถึงตรงนั้นก็เลยถามว่าโทรศัพท์ที่นู่นแพงมั้ย ทำไมไม่ซื้อแล้วเอา SIM มาเสียบแชร์ Wifi แล้วใช้ iPad เล่นเน็ตล่ะ การ์ดก็เลยถึงบางอ้อ เพราะไม่ได้คิดไว้เลย เป็นลูกชายคนไอทีแต่ดันทนใช้ 2G อยู่ได้ พ่อก็เลยบอกให้ลูกชายไปดูโทรศัพท์รุ่นที่แชร์ Wifi มาว่าราคาเท่าไหร่? เดี๋ยวส่งตังส์ไปให้ แต่โดยส่วนตัวการ์ดมันชอบ Nokia ยุให้ใช้ iPhone หลายรอบแล้วไม่เอา เลยบอกให้การ์ดไปดูราคา Nokia Lumia รุ่นที่ใช้ Windows 8 มา, รู้สึกลูกชายจะดีใจออกนอกหน้า เข้าทางเลย.. คราวนี้คงเล่นเน็ตและติดต่อกันง่ายหน่อย Online ได้ตลอด 3G แท้แน่นอน.. ไม่ใช่ 3G ในท่อ 2G แบบ Thailand Only..

ที่อิตาลี, การได้เห็นคนผมดำ ตาสีดำ กลายเป็นเรื่องแปลกที่คนให้ความสนใจ เข้ามาพูดคุยด้วย ยิ่งพูดภาษาอิตาเลี่ยนได้ยิ่งถามนู่นนี่นั่นไปกันใหญ่ บ้านเมืองเค้ามีแต่นัยตาสีฟ้า ผมสีบรอนด์, สีทอง หรือน้ำตาล นานๆจะได้เห็นคนผมดำ ตาสีดำ อย่างเด็กเอเซียบ้าง ก็เหมือนบ้านเราที่ชอบดูผู้หญิงตาสีฟ้า ผมสีทอง เวลาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เราก็เป็นของแปลกของเค้าเหมือนกันน่ะ


ภาษาอังกฤษกับคนอิตาลีดูจะไม่แพร่หลายเท่าไหร่ กลับกลายเป็นภาษาสเปนที่การ์ดบอกว่า ก็เหมือนภาษาไทยกับภาษาลาวแหละพ่อ คนพูดสเปนได้ก็พอเข้าใจภาษาอิตาเลี่ยน คงเป็นประเทศในแถบเดียวกันภาษาเลยใกล้เคียงกัน แต่กับคนส่วนใหญ่กลับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แรกๆมาการ์ดก็สื่อสารผ่านภาษาที่สองแทบไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ได้พี่ชายที่เป็น AFS-America มาช่วยก็แย่เหมือนกัน ครั้งนึงการ์ดเรียนแล้วเลิกเย็น ต้องกลับบ้านมืด นั่งรถเมล์มามีการ์ดกับคนขับรถแค่สองคน คนขับถามเป็นอิตาเลี่ยนการ์ดว่าเป็นคนที่ไหน, ท่าทางเหมือนไม่ใช่คนในพื้นที่ การ์ดตอบเป็นภาษาอังกฤษไปว่ายังพูดอิตาเลี่ยนไม่ได้ คนขับรถตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษทันที เลยเป็นเพื่อนคุยกันไปได้ตลอดทางกลับบ้าน คนส่วนน้อยเท่านั้นที่พูดภาษาอังกฤษได้ แรกๆการ์ดก็เกือบแย่เหมือนกัน ยิ่งครูที่โรงเรียนถ้าไม่ใช่ครูสอนภาษาอังกฤษก็จะสื่อสารกันยากหน่อย แต่อย่างว่า อยู่บ้านเมืองเค้าก็ต้องพูดภาษาเค้า เหมือนฝรั่งมาเมืองไทยพูดไทยชัดแจ๋วเก่งกว่าคนไทยอีก เราก็เลยอยากให้ลูกพูดได้ ซึ่งก็ได้อย่างดี สมใจจัง..


การ์ดเล่าว่า อาทิตย์ก่อนเป็นวันเกิด Dad ครอบครัวออกไปทานข้าวนอกบ้านกัน Dad ก็ไปต่อไปคุยกับเพื่อนโดยมีลูกชาย Dad และการ์ดไปด้วย กลับบ้านกันมาตีสองได้ การ์ดในฐานะสมาชิกในครอบครัวคนนึงก็ไปกับ Dad ด้วย, การ์ดเล่าว่า Dad เป็นคนคุยเก่งยิ่งการ์ดฟังอิตาเลี่ยนได้ยิ่งเล่าเรื่องให้ฟังใหญ่เลย มีครั้งนึงเคยเล่าเรื่องไปจับโจรหรือขโมยให้การฟัง แต่เมื่อก่อนคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะ Dad ฟังและพูดอังกฤษไม่ได้เลย การ์ดบอกว่ากินข้าวกันเสร็จก็พากันมาเดินริมทะเลสาป คุยกับเพื่อนกันไป การ์ดก็เดินตามไปเป็นเพื่อน แม่ถามว่าเค้ากินเหล้ากินเบียร์กันแบบคนไทยมั้ย? การ์ดบอกว่าไม่น่ะ เค้ากินแต่ไวน์กัน ลูกชาย Dad ก็ชิ่งไปเที่ยวต่อกับเพื่อนก่อนเหลือการ์ดคนเดียวทำหน้าที่ลูกชายแทน เก่งจริงไอ้ลูกคนนี้..



การ์ดมีคุยกับหม่อมแม่เรื่องจะไปเที่ยวเมืองต่างๆทั้งที่อยากไปเองและ Chapter จะจัด, หม่อมแม่ถามว่าเก่งขนาดจะไปเองได้แล้วเหรอ การ์ดบอกแม่ไม่รู้อะไร การ์ดเคยไปไกลๆคนเดียวมาแล้ว แต่การ์ดบอก Mom กับ Chapter ก่อนแล้ว, แบบ One Day Trip ไม่ได้ไปค้าง Mom ก็เลยอนุญาต ใน Verona การ์ดเดินมาจนทั่วแล้ว การ์ดบอกว่าขนาดพี่ชายจะไปไหนไม่รู้ยังมาถามทางในเมืองการ์ดเลย เก่งกว่าเจ้าของบ้านอีก การ์ดบอกว่าคนที่นู่นมักมี GPS ใช้กัน, เค้าอาศัยเทคโนโลยีการนำทางช่วยในการไปนี่ไปนู่น การ์ดบอกว่า GPS การ์ดอยู่ที่หัว แต่การ์ดเป็นคนจำอะไรแม่น เมื่อก่อนพ่อก็จำแม่นแต่เดี๋ยวนี้แบตมันเสื่อมๆเลยหลงๆลืมๆ บางครั้งกลับบ้านดึก จำทางกลับบ้านไม่ค่อยได้ แย่จัง..



หม่อมแม่เลยบอกการ์ดต่อว่า เวลาไปเที่ยวที่ไหนให้ดูของฝากที่ต้องซื้อมาด้วย เวลากลับบ้านจะได้ไม่ยุ่ง การ์ดบอกว่าก็มีเตรียมๆดูไว้บ้าง มีทั้งแม่เหล็กติดตู้เย็น พวงกุญแจ ช็อคโกแล็ต หม่อมแม่เน้นว่าให้มันสื่อถึงแหล่งที่มาได้ด้วยก็ดี รายชื่อคนที่ต้องซื้อของมาฝากดูจะเยอะเหลือเกิน คงต้องเป็นของขนาดเล็กๆที่เอามาง่ายและไม่หนักมาก แต่การ์ดบอกว่าขนาดไม่เหล็กหรือที่ติดตู้เย็นยังราคาประมาณ 1-2 Euros เลย อะไรที่นี่ดูมีราคาแพงไปหมด ตั้งแต่ส่งไปเมืองนอกดูจะเป็นคนรู้จักกินรู้จักใช้ไปแล้วลูกชาย

End..